Skin & Aesthetic

PRP

การนำเอาพลาสมาที่มีเกล็ดเลือดและ Growth Factor เข้มข้น มาฉีดกลับเข้าสู่ผิวของผู้เข้ารับการรักษา เพื่อช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ ทำให้เซลล์เจริญเติบโต ฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรง

PRP หรือ Platelet-Rich Plasma คือ พลาสมาที่อุดมไปด้วยเกล็ดเลือด ซึ่งได้จากการนำเลือดเพียงเล็กน้อยมาผ่านกระบวนการปั่นแยก โดยจะได้ส่วนประกอบของเลือดที่มีความเข้มข้นของเกล็ดเลือดเป็น 3-8 เท่า ของระดับเกล็ดเลือดปกติ
ทั้งยังมี Growth Factor ต่างๆ ที่ช่วยกระตุ้นการหายของแผลและซ่อมแซมเซลล์ ทำให้เซลล์เจริญเติบโตและยังช่วยทำลายเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และกระตุ้นการฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรง โดยเราจะนำเฉพาะพลาสมาที่มีเกล็ดเลือดและ Growth Factor เข้มข้น มาฉีดกลับเข้าสู่ผิวของผู้เข้ารับการรักษา

PRP ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง

การดูแลตัวเองหลังทำ PRP

ข้อดีของ PRP

PRP คือการรักษาบนพื้นฐานของกระบวนการรักษาตัวเองตามธรรมชาติของมนุษย์ ซึ่งได้มาจากเลือดของคนไข้เอง ดังนั้นจึงมีความปลอดภัย ไม่มีแผลหลังการผ่าตัด และแทบไม่มีโอกาสในการเกิดอาการแพ้หรือผลข้างเคียง การรักษาโดย PRP นั้นไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาในการทำไม่นานเพียง 10 – 20 นาที คนไข้ไม่ต้องพักฟื้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีหลังจากที่ได้รับการทำ PRP
อย่างไรก็ตาม การทำ PRP ไม่ควรทำพร้อมกันกับการทำ Botox หรือการฉีด Filler โดยควรเว้นระยะห่างกันสำหรับการทำ Botox ประมาณ 1 สัปดาห์ และถ้าเป็นการฉีด filler ควรมีระยะห่าง อย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ โดยอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

Our Doctors

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม

ลงทะเบียนรับสิทธิ์โปรโมชั่น