Our Services

Erectile Dysfunction Therapy

ฟื้นฟูและป้องกันภาวะหย่อนสมรรถภาพ

Table of Contents

Erectile Dysfunction (ED) คืออะไร

ภาวะเสื่อมสมรรถภาพ หรือหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction; ED) คือภาวะที่น้องชายไม่สามารถแข็งตัวได้หรือแข็งตัวได้ไม่เพียงพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ บางรายมีอาการหลั่งเร็ว หลั่งไว ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้กับผู้ชายทุกวัยตั้งแต่วัยหนุ่มไปจนถึงผู้สูงอายุ

ปัญหาเรื่อง ED ของผู้ชายทั่วโลกมักจะเริ่มต้นจากอาการเพียงน้อยนิดที่น้อยคนนัก จะใส่ใจหรือสังเกตเห็น ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่สร้างความ เครียดได้มาก ซึ่งภาวะ ED ไม่ได้ส่งผลแค่เรื่องของความสัมพันธ์กับคนรักเท่านั้น แต่อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น ความเสื่อมของหัวใจและหลอดเลือด ภาวะฮอร์โมนเพศพร่องหรือ อาจเกิดจากความปัญหาทางด้านจิตใจ เช่น ภาวะวิตกกังวล ความเครียด ภาวะซึมเศร้า เป็นต้น
ผู้ชายส่วนใหญ่เมื่อถึงวัยกลางคนจะเริ่มเจอภาวะเสื่อม สมรรถภาพ จากสถิติล่าสุดพบว่าผู้ชายไทยที่มีปัญหาสุขภาพ ทางเพศสูงถึง 50% ซึ่งในปัจจุบันพบผู้ที่มีโอกาสเกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพนี้สูงกว่าในอดีตที่ผ่านมาถึง 3 เท่า เนื่องจากการดำรงชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้เพศชายเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศสูงขึ้น
โดยยิ่งอายุมากขึ้นจะยิ่งพบผู้ป่วยมากขึ้นไปตามวัย เพราะฮอร์โมนเพศลดลงพร้อมๆ กับความเสื่อมของร่างกาย อย่างไรก็ตามผลวิจัยจากหลายแห่งพบว่า 1 ใน 4 ของผู้ชายในปัจจุบันที่มีปัญหาสุขภาพทางเพศ มีอายุต่ำกว่า 40 ปี

ระดับความรุนแรงของภาวะ ED

ระดับความรุนแรงน้อย

การมีเพศสัมพันธ์จะสามารถ สำเร็จได้เกือบทุกครั้ง

ระดับความรุนแรงปานกลาง

หากมีเพศสัมพันธ์จะสำเร็จได้ ประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนครั้ง ในการร่วมเพศ

ระดับความรุนแรงมาก

ล้มเหลวทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์

สาเหตุของการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

การที่อวัยวะเพศชายจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยกระบวนการทำงานของระบบสมอง หัวใจ หลอดเลือด การไหลเวียนของเลือด ฮอร์โมน เส้นประสาท กล้ามเนื้อ รวมถึงปัจจัยทางจิตวิทยา ดังนั้น หากระบบการทำงานเหล่านี้เกิดความผิดปกติ ก็อาจจะ ส่งผลต่ออวัยวะเพศได้
การแข็งตัวจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีเลือดเข้ามาหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อภายในอวัยวะเพศได้อย่างเต็มที่ เพื่อตอบสนองต่อการถูกกระตุ้นทางอารมณ์ แต่สำหรับคนที่มีภาวะ ED อาการนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยหรืออาจเกิดขึ้นได้ไม่เต็มที่ ทำให้ความแข็งตัวมีไม่มากพอในระหว่างการทำกิจกรรม โดยปกติภาวะ ED จะพบได้บ่อยกับผู้ชายที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ประมาณ 40% และ เกือบ 70% ได้รับผลกระทบเมื่ออายุ 70 ปี

1. สาเหตุในชายไทยวัยต่ำกว่า 40 ปี

การสูบบุหรี่

การสูบบุหรี่มีผลเสียต่อสุขภาพมากมาย รวมทั้งก่อให้เกิดภาวะ ED ในผู้ชายทุกวัย เนื่องจากการสูบบุหรี่สามารถทำลายระบบทุกส่วนภายในร่างกายได้ สารเคมีในควันบุหรี่จะไปทำลายหลอดเลือด ยับยั้งการไหลเวียนของเลือด ดังนั้นแม้ว่าระบบประสาทจะทำงานได้ดี แต่อวัยวะเพศก็จะไม่สามารถแข็งตัวได้หากหลอดเลือดไม่แข็งแรง
Read More Read Less

การดื่มแอลกอฮอล์

การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปอาจส่งผลต่อสมรรถภาพได้ เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะไปกดระบบประสาท ยิ่งดื่มหนักก็ยิ่งทำให้การแข็งตัวเป็นไปได้ยากขึ้น นอกจากนี้แอลกอฮอล์ยังทำให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนลดลง ซึ่งส่งผลทำให้ความต้องการทางเพศลดลง ดังนั้นจึงควรจำกัดปริมาณการดื่มและหลีกเลี่ยงการแก้ปัญหาด้วยการซื้อยาเสริมสมรรถภาพเพศชายทานเอง
Read More Read Less

ภาวะทางด้านจิตใจ

คนที่มีความเครียด วิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า ไม่มั่นใจตัวเอง และมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสมรรถภาพของตัวเอง อาจเป็นสาเหตุที่นำไปสู่ภาวะ ED ได้ในที่สุด เพราะปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลต่อสมองที่จะไปกระตุ้นการตอบสนองทางกายภาพไมให้เกิดการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้อย่างเต็มที่
Read More Read Less

2. สาเหตุในชายไทยวัยเกินกว่า 40 ปี

ภาวะหลอดเลือดแข็ง หรือ โรคหัวใจและหลอดเลือด

เป็นสาเหตุทางการแพทย์ที่พบบ่อยที่สุด ปัญหาคราบพลัคที่สะสมในหลอดเลือดแดงจะทำให้เกิดอาการตีบหรืออุดตัน ซึ่งนำไปสู่ภาวะเสื่อมสมรรถภาพ หรืออาจทำให้เกิดภาวะหัวใจวายได้ ผู้ชายที่มีปัญหาหลอดเลือดตีบหรืออุดตันบริเวณอวัยวะเพศ จะทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ดีเหมือนกับคนที่แข็งแรงและมีสุขภาพดี ส่งผลให้การแข็งตัวทำได้ไม่มากพอหรือไม่สามารถแข็งตัวได้เลย ปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกับหลอดเลือดและมีแนวโน้มที่ทำให้การเกิดภาวะ ED ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง, ระดับคอเลสเตอรอลสูง, โรคเบาหวาน, โรคอ้วน, การสูบบุหรี่หรือยาสูบ เช่น ซิการ์
Read More Read Less

โรคความดันโลหิตสูง

ผู้ชายที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพเพิ่มมากขึ้นเกือบ 2 เท่า เมื่อเทียบกับคนปกติเนื่องจากปัญหาการไหลเวียนของเลือดบริเวณอวัยวะเพศ โดยส่งผลให้ผนังหลอดเลือดหนาขึ้นและรูเล็กลง ทำให้เลือดวิ่งไปยังบริเวณอวัยวะเพศได้น้อยลง นับได้ว่าภาวะเสื่อมสมรรถภาพเป็นสัญญาณเตือนความเสียหายของหลอดเลือดได้ในหลายกรณี
Read More Read Less

ระดับคอเลสเตอรอลสูง

การที่ร่างกายของเรามีคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (หรือที่เรียกว่า LDL) มากเกินไป มันจะไปเกาะตามผนังหลอดเลือดทำให้เกิดการตีบตันและเลือดไม่สามารถ ไหลเวียนไปที่อวัยวะเพศได้ ยิ่งระดับคอเลสเตอรอลสูงเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ปัญหาการแข็งตัวของอวัยวะเพศรุนแรงขึ้น นอกจากนี้คอเลสเตอรอลยังทำให้ร่างกายผลิตและปล่อยสารเคมีที่ส่งผลกับการแข็งตัวได้ยากขึ้น รวมถึงสารไนตริกออกไซต์ที่ช่วยขยายหลอดเลือดและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดการสะสมของคราบพลัค ก็ทำได้ยากขึ้นเช่นกัน
Read More Read Less

โรคเบาหวาน

ภาวะเสื่อมสมรรถภาพถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับผู้ชายที่เป็นเบาหวาน โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่2 (ภาวะที่ร่างกายไม่สามารถตอบสนองต่ออินซูลิน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ) ทำให้เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาท หลอดเลือด และการทำงานของกล้ามเนื้อ อันเนื่องมาจากการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดที่ไม่ดี ผู้ชายที่เป็นเบาหวานมักจะมีปัญหาการแข็งตัวของอวัยวะเพศมากกว่าคนปกติ โดยเฉพาะกรณีคนที่ไม่ได้ควบคุมเบาหวานได้ดีมากพอ อย่างไรก็ตามหากสามารถรักษาระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ ก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาเหล่านี้ได้
Read More Read Less

ภาวะโรคอ้วน

ผู้ชายที่มีภาวะโรคอ้วนหรือมีน้ำหนักตัวเกิน นอกจากจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดแล้ว ยังมีโอกาสที่จะเผชิญกับภาวะเสื่อมสมรรภาพมากกว่าคนน้ำหนักปกติ อีกทั้งยังทำให้ระดับของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน หรือฮอร์โมนเพศชายต่ำลง ซึ่งหากระดับฮอร์โมนเพศพร่องหรือไม่สมดุล ก็สามารถก่อให้เกิดปัญหาการเสื่อมสมรรถภาพได้
Read More Read Less

การรักษาภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

ผู้ป่วยที่มีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษาทุกราย หากผู้ป่วยและคู่สมรสไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหา หรือสงผลกระทบต่อการใช้ชีวิตคู่ อย่างไรก็ตาม การที่ผู้ป่วยมีภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งอาจมีสาเหตุจาก โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูงหรือจากการเป็นปัจจัยเสี่ยงของ โรคอื่นๆ แม้ว่าไม่ต้องการจะมีเพศสัมพันธ์แล้วหรือไม่ได้รู้สึกว่าเป็นปัญหา แต่ก็ควรเข้ารับการตรวจเช็คสุขภาพเพื่อประเมินโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
การรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ มีหลากหลายวิธี เช่น การใช้ยาหรือ อาหารเสริม, การให้วิตามินผ่านสายน้ำเกลือ (IV Drip), Shockwave Therapy, INDIBA, Plasma Shot, Cell Regeneration เป็นต้น

Shockwave Therapy

เทคโนโลยีใหม่และเป็น 1 ในการรักษาภาวะ ED ที่ได้ผล
โดยใช้หลักการส่งคลื่นเสียงความถี่ต่ำแบบแรงกระแทกผ่านเนื้อเยื่อในอวัยวะเพศเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพแบบธรรมชาติ ซึ่งพบว่ามีผลช่วยให้เกิดการสร้างหลอดเลือดขึ้นใหม่และซ่อมแซมหลอดเลือดที่เสียหาย เมื่อหลอดเลือดในอวัยวะเพศได้รับการฟื้นฟูแล้วก็จะส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นการแข็งตัวดีและนานขึ้น สามารถรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรก โดยไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้นนาน และไม่ต้องเจ็บตัวเพราะไม่ต้องผ่าตัด สามารถกลับไปทำกิจกรรมได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับปัญหาและสุขภาพของผู้เข้ารับบริการ

ทำไมถึงควรมารักษาที่ TSWC

ที่ TSWC เรามีทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านการรักษาภาวะ ED หรืออาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศแบบครบวงจร เน้นการรักษาและฟื้นฟูที่ต้นเหตุของปัญหา พร้อมช่วยวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพในระยะยาว สามารถรักษาได้ตั้งแต่ผู้ที่เริ่มมีปัญหาเล็กน้อย ไม่มีโรคประจำตัว ไปจนถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน หัวใจ ฯลฯ

BLT shockwave ที่ TSWC แตกต่างจากที่อื่นๆ อย่างไร

คุณสมบัติ BTL Shockwave ที่ TSWC Shockwave ทั่วไป
BTL-Device-pc2qotzvr46tuadp2mi6h598baisx25xshq18wscu8 Radial-Device-pc2qouxpxy845wcbx4wt1n0owoe64r9o4mdiq6qyo0
การรับรอง US FDA, CE(EU), อย.ไทย ไม่มี
การส่งพลังงาน สามารถปรับระดับความลึกและความถี่ของพลังงานที่ใช้ได้ ไม่สามารถปรับระดับความลึกและความถี่ของพลังงานที่ใช้ได้
ขั้นตอนการทำ เนื่องจากเป็นเครื่องมือแพทย์ ต้องทำในสถานประกอบการ และทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ทำได้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านกายวิภาค
งานวิจัย มีงานวิจัยรับรอง ไม่มีงานวิจัยรับรอง
ประเทศผู้ผลิต ประเทศอังกฤษ ประเทศจีน

ข้อดีของการรักษาด้วย BTL Shockwave Therapy

อวัยวะเพศแข็งตัวดีขึ้น

กระตุ้นการสร้างหลอดเลือดใหม่และการหมุนเวียนเลือดในอวัยวะเพศ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการแข็งตัวได้ดีและนานมากขึ้น

ลดความเสี่ยงโรค

ลดโอกาสในการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคความดันโลติดสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น

รักษาที่ต้นเหตุ

ปัญหาความเสื่อมสมรรถภาพส่วนใหญ่เกิดจากความอุดตันของหลอดเลือดและระบบไหลเวียนของเลือดที่ทำงานได้ไม่ดีพอ ซึ่งฟื้นฟูได้ด้วยโปรแกรมของเรา

ไม่ต้องพึ่งยาเพิ่มประสิทธิภาพ

หมดห่วงเพราะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ทานยาเสริมสมรรถภาพไม่ได้ หรือไม่อยากพึ่งพาการทานยาเป็น ประจำทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์

ปลอดภัยสูง

ข้อดีอย่างหนึ่งของการรักษาด้วย BTL Shockwave Therapy คือไม่มีรายงานผลข้างเคียง เนื่องจากเป็นการทำงานโดยกระตุ้นการเติบโตและการฟื้นตัวตามธรรมชาติ

รักษาโดยแพทย์ชาย

เรามีทีมแพทย์ชายผู้เชี่ยวชาญทำการรักษาภาวะ EDกับโปรแกรม ED Therapy และให้คำ ปรึกษาในด้านนี้โดยเฉพาะ

เพิ่มความมั่นใจ กระชับความสัมพันธ์

ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศทำให้ผู้ชายหลายคนหมดความมั่นใจ และทำให้ชีวิตคู่สั่นคลอน ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วยการรักษาด้วยวิธีนี้

ทำได้แม้มีโรคประจำตัว

ทำควบคู่กับกับการทานยารักษาโรคประจำตัวอยู่แล้ว โดยแพทย์จะทำการเช็คประวัติและ โรคประจำตัวเพื่อการฟื้นฟูอย่างถูกต้องและได้ผลสูงสุด

ผลการรักษา

สมรรถภาพทางเพศจะค่อยๆ ฟื้นฟูขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเข้ารับการรักษาครบตามกำหนด โดยส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้น และมีความสามารถในการแข็งตัวของอวัยวะเพศดีขึ้น หลังจากการรักษาครั้งที่ 3-4 อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพและจำนวนครั้งของการรักษานั้นยังขึ้นอยู่กับโรคประจำตัว และปัจจัยอื่นๆร่วมด้วย ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้พิจารณาและประเมินผลตลอดการรักษา

FAQ

คำถามที่พบบ่อย

การที่อวัยวะเพศจะแข็งตัวและทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ต้องอาศัยการทำงานของทั้งระบบประสาท ระบบหลอดเลือด ความสมดุลของฮอร์โมนเพศ รวมถึงกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อบริเวณอวัยวะเพศ ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หรือ ED: Erectile Dysfunction คือภาวะที่อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้เพียงพอสำหรับกิจกรรมทางเพศ

การรักษาด้วย BTL Shockwave ใช้เวลาในการรักษาเพียง 8-12 นาที/ครั้งเท่านั้น ผู้เข้ารับบริการจะรู้สึกเหมือนมีแรงกระแทกเบาๆ บริเวณอวัยวะเพศขณะรักษา โดยอาจจะมีอาการระบมเล็กน้อยหลังการรักษา แพทย์จะให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ โดยให้งดกิจกรรมทางเพศ 1-2 วัน ไม่เจ็บ ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง สามารถทำกิจกรรมทั่วไปได้ตามปกติ
*สำหรับคนไข้ใหม่จะใช้เวลาประมาณ 1.30-2.00 ชั่วโมง (รวมตรวจสุขภาพและปรึกษาแพทย์)

ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันสูง เบาหวาน ภาวะหลอดเลือดและหัวใจ มักจะมีปัญหาทางเพศมากกว่าปกติ เพราะเส้นประสาทและเส้นเลือดฝอยได้รับความเสียหาย ทำให้เลือดไหลเวียนไปที่อวัยวะเพศได้น้อยลง โรคอ้วนหรือน้ำหนักตัวเกิน นอกจากจะส่งผลเสียต่อร่างกายแล้ว ยังส่งผลต่อฮอร์โมนเพศชายซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นฮอร์โมนเพศหญิงในเซลล์ไขมัน ทำให้ฮอร์โมนเพศไม่สมดุล เกิดปัญหาการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้ ที่ TSWC Anti-Aging Center

เรามีทีมแพทย์ที่มากประสบการณ์ด้านการรักษา ED คอยให้คำปรึกษา โดยเน้นการรักษาทีต้นเหตุเพื่อให้อวัยวะเพศสามารถแข็งตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถรักษาได้ตั้งแต่ผู้ที่เริ่มมีปัญหาเล็กน้อย ไม่มีโรคประจำตัว ไปจนถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน หัวใจ

จากสถิติของผู้เข้ารับการรักษาทั่วไปพบว่าความแข็งตัวของอวัยวะเพศดีขึ้นหลังการรักษาครั้งที่ 3-4 ด้วย BTL Shockwave เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนการรักษา ในกรณีที่มีปัญหาสุขภาพด้านอื่นร่วมด้วย หรือต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อาจจะต้องร่วมกับการรักษาโดยวิธีอื่น อย่างไรก็ตามระยะเวลาและวิธีการรักษาขึ้นอยู่หลายปัจจัย เช่น อายุ โรคประจำตัว พฤติกรรมการใช้ชีวิต ฯลฯ ซึ่งจะถูกประเมินอย่างละเอียดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  1. Shockwave Therapy คือ การรักษาคลื่นเสียงความเข้มต่ำแบบ non-invasive จะไปกระตุ้นและส่งเสริมการสร้างหลอดเลือดใหม่และซ่อมแซมหลอดเลือดที่เสียไป
  2. Supplement หรืออาหารเสริม มีทั้งสูตรสำหรับบุคคลทั่วไปที่มีปัญหาเล็กน้อย และสูตรเฉพาะบุคคลที่มีปัญหาด้านสุขภาพ เช่น ความดันสูง เบาหวาน ภาวะหลอดเลือดและหัวใจ หรือผู้ที่มีภาวะฮอร์โมนเพศไม่สมดุล
  3. INDIBA Deep Care ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดทั้งระดับผิวเผินและระดับลึก รวมทั้งช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณองคชาติ ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ซึ่งจะช่วยลดความดันโลหิตส่งผลให้ร่างกายสามารถสูบฉีดเลือดเข้าไปเลี้ยงอวัยวะเพศได้ดีและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณต่อมลูกหมาก
  4. IV Drip หรือการให้วิตามินผ่านทางสายน้ำเกลือ มีหลายสูตร ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละท่าน เป็นตัวช่วยเพิ่มระบบการไหลเวียนของเลือดเเละขยายหลอดเลือด รวมถึงสูตรลดความดันเเละเบาหวานทำให้ระบบไหลเวียนดีขึ้น ทำให้มีการเเข็งตัวที่ดีขึ้น อึดทนมากขึ้น
  5. Plasma Shot การนำเลือดของตัวเองมาปั่นเพื่อเเยกชั้น เเล้วดึงส่วนพาสมา (ซึ่งมีคุณสมบัติเป็น Growth Factor)ออกมา แล้วฉีดเข้าไปในบริเวณอวัยวะเพศ ทำให้เกิดการซ่อมเเซมเนื้อเยื่อของเซลล์ที่อ่อนเเอ ให้กลับมามีประสิทธิภาพ รวมทั้งช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อและหลอดเลือดบริเวณองคชาติให้กลับมาทำงานได้เหมือนเดิม
  6. Cell Regeneration สารสกัดจากรก ที่อุดมไปด้วยสารอาหารเข้มข้น เช่น กรดอะมิโน วิตามิน และ Growth Factor ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ชะลอวัยและฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมในร่างกาย ปรับสมดุลทางอารมณ์ สร้างกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังมี ฮอร์โมนเพศ ช่วยรักษาอาการวัยทอง และแก้ไขปัญหาสมรรถภาพทางเพศให้กลับมาใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
  7. MSC เป็นเซลล์ต้นกำเนิด และ Growth Factor เสมือนแหล่งเซลล์สำรองของร่างกาย สามารถทดแทนเซลล์ที่เสื่อม ส่งเสริมให้มีการสร้างเซลล์ผนังหลอดเลือดและเส้นเลือดใหม่เพิ่ม ทำให้การไหลเวียนเลือดเพิ่มขึ้นมาก อีกทั้งช่วยให้การหลั่งสารกระตุ้นเซลล์ประสาทให้ทำงานดีขึ้น ส่งผลให้เซลล์กล้ามเนื้อบริเวณอวัยวะเพศทำงานได้ดีขึ้นด้วย
  8. Lab Test การเจาะเลือดเพื่อหาสาเหตุ และวางเเผนการรักษาในอนาคต เช่นการตรวจระดับฮอร์โมนและน้ำตาล

โดยทั่วไปภาวะ ED มักพบในผู้ชายสูงอายุ แต่ผลวิจัยจากหลายแห่งพบว่าในปัจจุบันผู้ชายที่อายุน้อยกำลังประสบปัญหานี้เพิ่มขึ้น โดย 1 ใน 4 ของผู้ชายที่มีปัญหา ED มีอายุต่ำกว่า 40 ปี

ที่พบบ่อยจะเป็นเรื่องของสภาพจิตใจและพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่นการดื่มเหล้า, สูบบุหรี ฯลฯ ซึ่งจะส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้การแข็งตัวของอวัยวะเพศแย่ลงและกระตุ้นให้ผู้ชายมีปัญหาฮอร์โมนเพศต่ำก่อนวัยได้เร็วขึ้น การเกิดภาวะ ED ในคนที่อายุน้อยจะสัมพันธ์กับโรคหัวใจขาดเลือดที่เกิดเมื่ออายุมากขึ้น

การออกกำลังกายมากเกินไปหรือหักโหมเกินไป ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หรือฮอร์โมนความเครียดเพิ่มขึ้น ในขณะที่ฮอร์โมนเพศชายจะทำงานลดลด
ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ได้แก่ งดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงภาวะเครียด เป็นต้น

การซื้อยารักษาและบำบัดอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศชายด้วยตัวเอง อาจมีผลข้างเคียงที่อันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหา กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

นอกจากนี้การใช้ยาจะได้ผลเป็นครั้งคราวและเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดผลข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ ปวดไมเกรน ผิวหนังแดง อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้อาเจียน คัดจมูก น้ำมูกไหล ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ ทัศนวิสัยในการมองเห็นผิดปกติ เช่น ตาพร่า มัว ฯลฯ ซึ่งเมื่อใช้ไปเรื่อยๆจะได้ผลน้อยลง หรืออาจจะไม่ได้ผลเลย นั่นคือการส่งสัญญาณความเสื่อมของร่างกาย

ทางที่ดีเมื่อเกิดภาวะ ED หรือเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ แนะนำให้ปรึกษาและให้แพทย์เป็นผู้แนะนำในการรักษา ซึ่งหากได้รับการรักษาที่ตรงจุดก็สามารถรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้

Our Doctors

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม

ลงทะเบียนรับสิทธิ์โปรโมชั่น